วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2552

~ForUm **

Hiii !!!!!!!

How are u ???





my forum link : http://ragiizz.forumotion.com

วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Wu Zun


ในการแสดง : อู๋ จุน 吴尊

ชื่อจริง : อู๋ จี๋ จุน 吴吉尊
วันเกิด : 10 ตุลาคม 1979
กรุ๊ปเลือด : O
ราศี : ตุลย์
สูง : 182 เซนติเมตร
หนัก : 73 กิโลกรัม
นิสัย : ขี้อาย ขี้ลืม มีความตั้งใจทำงาน
กิจกรรมยามว่าง : เล่นบาส ฟิตเนส ฟังเพลง ดูหนัง กิน ทำอาหาร แล้วก็เที่ยว
การศึกษา : RMIT UNIVERSITY, AUSTRALIA (BACHELOR OF BUSINESS IN BUSINESS ADMINISTRATION
สีที่ชอบ : แล้วแต่สถานการณ์...
อาหารที่ชอบ : "ผมเป็นคนชอบทานมากๆ นอกจากอาหารที่เลี่ยนๆแล้ว นอกนั้นก็ทานได้หมด"
เครื่องดื่มที่ชอบ : พวกเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์
แนวดนตรีที่ชอบ : แล้วแต่อารมณ์...
สถานที่ที่ชอบ : นิวยอร์ก
ภาพยนตร์ที่ชอบ : Braveheart
รสชาติอาหารที่ชอบ : ชอบกลิ่นอาหารที่อร่อยๆ (หัวเราะ)
เมืองที่อยากไป : นิวยอร์ก
ฤดูที่ชอบ : ฤดูใบไม้ผลิ
การ์ตูนที่ชอบ : Super Man
ดอกไม้ที่ชอบ : ดอกลิลลี่
รักครั้งแรก : ตอนอายุ 16 ปี
ผู้หญิงที่ชอบ : "ในความคิดผมแล้ว ความรู้สึกเป็นสิ่งสำคัญที่สุด"
เรื่องที่แย่ที่สุด : "การสูญเสียคนสำคัญที่สุดในชีวิต"
ความใฝ่ฝันสูงสุด : เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว
เรื่องในอดีตที่ยากจะลืม : ได้ดูแลคุณแม่ก่อนที่ท่านจะเสีย
เรื่องในอดีตที่เสียใจที่สุด : ก่อนที่คุณแม่จะเสีย ไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับแม่เท่าที่ควร
เรื่องในอดีตที่กล้าหาญที่สุด : ภูมิใจที่ได้ทำงานการแสดงในไต้หวัน



งานละคร
Zhong Ji Yi Ban แสดงเป็น Tian Hong Guang
Tokyo Juliet [Dong fang Zhu Li ye] แสดงเป็น Ji Feng Liang
Tou Tou Ai Zhe Ni แสดงเป็น You Ye Quan

งานเพลง
Zhong Ji Yi Ban OST [Fahrenheit]




วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Cup Cake

Cup Cake
ส่วนผสม
1. แป้งเค้ก 1,000 กรัม
2. ผงฟู 15 กรัม
3. เกลือป่น 10 กรัม
4. ไข่ไก่ 500 กรัม
5. น้ำตาลป่น 800 กรัม
6. เนยสด 500 กรัม
7. นมสด 300 กรัม
8. ลูกเกด
9. มะนาม 2 ลูก



วิธีทำ
1. ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เข้าด้วยกัน พักไว้
2. ทิ้งเนยในอุณหภูมิห้องให้นุ่ม ตีเนยสดให้กระจายตัวด้วยความเร็วสูง จนกระทั่งเนยอ่อนตัวและฟู
3. ใส่น้ำตาลทรายและเกลือจนส่วนผสมขึ้นฟูเนียน แบ่งแป้งที่พักไว้ ออกเป็น 3 ส่วน ใส่แป้งทีละ 1 ในส่วนลงไปในอ่างผสม
4. ใส่ไข่ ตีให้เข้ากัน
5. ใส่นม ตีให้เข้ากัน
6. ใส่น้ำมะนาวลงไปในส่วนผสมด้วยเพื่อความนิ่มและหอม
7. เมื่อตีส่วนผสมเข้ากันแล้ว ใส่ตู้เย็นไว้สักชั่วโมง แล้วจึงนำมาอบ
8. เตรียมพิมพ์ใส่ถาด
9. รองด้วยถ้วยกระดาษ
10. ตักหยอดใส่พิมพ์


วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Maldives

Sun, sand and sea, a thousand ‘Robinson Crusoe’ islands, massive lagoons with different depths and infinite shades of blue and turquoise, dazzling underwater coral gardens; a perfect natural combination for the ideal tropical holiday destination. However there is more to the Maldives than just that.


Maldives being at an important crossroad in the Indian Ocean, traders and visitors over time have left their mark on Maldivian cuisine in addition to contributing towards the moulding of the country’s culture and norms.

As the Maldives comprises more sea than land, it is only natural that fish (mainly tuna) have always been the most prominent element of Maldivian food. However, with travelers from different parts of the world, new seasonings and vegetables were introduced in to the country and added to the existing (limited) repertoire of seafood and tubers (e.g. taro & sweet potato). Each new discovery was incorporated into the diet in quantities most palatable to Maldivians. Thus Maldivian cuisine now comprises Arabic, Indian, Sri Lanka and Oriental tastes blended into a unique cuisine that embodies a culinary identity of its own.





วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Boys Over Flowers




ชินฮวากรุ๊ป ตระกูลที่รวยที่สุดในโลก มีธุรกิจต่างๆ นาๆ มากมาย ทั้ง เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ และโทรคมนาคม ไม่มีใครในเกาหลีใต้ที่ไม่รู้จัก ชินฮวากรุ๊ป และหนึ่งในธุรกิจก็คือโรงเรียนแห่งนี้ โรงเรียน ชินฮวา โรงเรียนแห่งแรกในประวัติศาสตร์เกาหลี ที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานธิบดี ผู้ที่เชื่อว่าระบบเศรษฐกิจเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าระบบการศึกษา และได้เขียนกฎหมายพิเศษเพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้กับโรงเรียนนี้ด้วย

เรียกได้ว่าโรงเรียนแห่งนี้ไม่ได้สร้างให้คนธรรมดาทั่วไปมีสิทธิเข้าเรียน กันได้ง่ายๆ แต่เป็นแหล่งรวมบรรดาลูกหลานนักธุรกิจและมหาเศรษฐีระดับแนวหน้าของประเทศไว้ มากมาย แต่ถ้าหากใครที่ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้แล้วล่ะก็ เรียกได้ว่าเหมือนปูทางสำหรับอนาคตได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะโรงเรียนแห่งนี้มีทั้งระดับอนุบาล ประถม มัธยมต้น มัธยมปลาย และมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว

และเพราะอย่างนี้นี่เองที่เป็นสาเหตุที่ทำให้นักเรียนทั่วประเทศเกิดความ อิจฉาเด็กที่ได้เรียนที่นี่ และต้องเผชิญกับความกลัวและกดดัน ที่จะเข้าโรงเรียนแห่งนี้ ผู้ปกครองเองก็ต้องทนทุกข์จากการรับเข้าเรียนที่แสนยากลำบากนี้

แต่อย่างไรก็ดี โรงเรียนแห่งนี้มีกลุ่มเด็กนักเรียนชายที่รวมตัวกันเป็นแก๊ง Flower Four (ฟลาวเวอร์โฟร์) หรือ F4 (เอฟโฟร์ ) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอภิสิทธิ์เหนือบรรดานักเรียนคนอื่นๆ แม้แต่อาจารย์ก็ยังไม่กล้าที่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง เนื่องจากโรงเรียนนี้ได้รับเงินบริจาคก้อนโตมาจากพ่อแม่ของพวกเขา

ซึ่งมีหัวหน้าแกงค์อย่าง กูจุนพโย ทายาท ชินฮวา ซุงวูบิน ทายาทบริษัทก่อสร้าง อิลชิน ที่มีมูลค่าหุ้นที่มากที่สุด และเป็นบริษัทที่มีเสถียรภาพมากที่สุดอีกด้วย ทั้งยังครอบครองไนท์คลับหรูหราอีกมายมาย โซยีจุง ศิลปินที่เด็กที่สุดในการเปิดตัวครั้งแรกที่ บิเอนนาเล่ อีกทั้ง ยูเนสโก้ ยังเลือกให้เขาเป็นศิลปินรุ่นเยาว์คนเดียวที่เก่งที่สุด และเค้ายังมีพรสวรรค์ในด้านคอมพิวเตอร์ และปู่ของยีจัง ยังเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์วูซัง พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ยุนจีโฮ ลูกชายคนเล็กของครอบครัวยุนซุก ที่ครอบครัวของเขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตหมด เหลือเพียงเขาคนเดียวตั้งแต่เขาอายุได้เพียง 5 ขวบ เขาเป็นหลานชายของประธานาธิบดียุนซุก เป็นเจ้าของศูนย์ศิลปะซูอันและเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลในลีคชั้นนำในยุโรปอีก ด้วย

ทั้ง 4 หนุ่มแก๊ง F4 มักจะแสดงอำนาจบาตรใหญ่ด้วยการนำกระดาษสีแดงเขียนข้อความว่า จาก…F4 หรือที่ทุกคนในโรงเรียนเรียกว่า ใบแดง ไปติดตามตู้ล็อคเกอร์ของนักเรียนที่แสดงพฤติกรรมต่อต้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนชาย หากใครก็ตามที่โดนใบแดง จะถูกเพื่อนนักเรียนทั้งโรงเรียนรุมกลั่นแกล้ง และต้องลาออกไปในที่สุด

กึมจันดี ลูกสาวร้านซักรีด ฐานะปานกลาง เธอเติบโตมากับน้ำเนื่องจากก่อนหน้านี้แม่ของเธอทำงานที่โรงอาบน้ำสาธารณะ เธอจึงเป็นนักว่ายน้ำระดับหัวแถวของโรงเรียน ในระหว่างที่เธอนำผ้าไปส่งที่โรงเรียนชินฮวา เธอได้ช่วยชีวิตนักเรียนคนหนึ่งที่กำลังคิดฆ่าตัวตายจากการได้รับใบแดง จากกลุ่ม F4 ทำให้ข่าวนี้แพร่สะพัดไปทั่ว สร้างความไม่พอใจกับประชาชนมากมาย ทำให้ผู้คนออกมาประท้วงต่อต่าน กลุ่ม ชินฮวา และระบบการศึกษาแบบพิเศษนี้

ทางโรงเรียนจึงมอบทุนการศึกษาให้ กึมจันดี ในฐานะนักเรียนพิเศษให้เธอได้มาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ แต่เธอเองไม่อยากไปเรียนเพราะคิดว่าโรงเรียนแห่งนี้มีแต่ลูกหลานคนรวย แต่ด้วยเพราะเธอต้องเห็นกับพ่อและแม่ของเธอที่ดูออกจะตื่นเต้นที่ลูกสาวจะ ได้ไปเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ เธอจึงต้องจำใจไปเรียน

เมื่อเธอไปเรียนเธอก็เฝ้ามองเหล่าเด็กนักเรียนชายที่ถูก กูจุนพโย หัวหน้าแก๊ง F4 ทำร้าย เธอมักจะข่มความไม่พอใจของตนเองด้วยการวิ่งไปที่ระเบียงชั้นบนของโรงเรียน พร้อมกับตะโกนบ่นออกมาอย่างสุดเสียงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงความไร้สาระของระบบในโรงเรียนแห่งนี้ โดยหารู้ไม่ว่า ยุนจีโฮ แอบนอนงีบอยู่ในบริเวณนั้นเป็นประจำ

ใจจริงแล้ว กึมจันดี รู้สึกชอบพอในนิสัยของ จีฮู ก็ด้วยเพราะเขาเป็นคนที่เงียบขรึม ไม่คุยโวโอ้อวดเหมือนสมาชิกแก๊ง F4 คนอื่นๆ และยังมาช่วยในตอนที่เธอเดือดร้อนหรือกำลังเศร้าทุกครั้งไป ทั้งสองเริ่มสนิทกัน จน กึมจันดี รู้ว่า ยุนจีโฮ แอบชอบ มินซอฮยอน เพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งตอนนี้ไปเป็นนางแบบอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส เธอมักจะเห็น จีฮู นั่งมองภาพโฆษณาของ มินซอฮยอน อยู่บ่อยๆ จนเมื่อมีข่าวว่า มินซอฮยอน จะแต่งงาน ทำให้ ยุนจีโฮ เกิดหมดอาลัยตายอยากในชีวิต มีแต่เพียง กึมจันดี เท่านั้นที่คอยให้กำลังใจ

ด้วยความที่ต้องเผชิญหน้ากันอยู่หลายครั้ง จนกลายเป็นคู่ปากคู่ปรับประจำโรงเรียน ทำให้ กูจุนพโย และ กึมจันดี เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น กูจุนพโย รู้สึกว่า กึมจันดี ไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต ความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อ กึมจันดี เริ่มก่อตัวขึ้นทีละน้อย จนกลายเป็นความรักในที่สุด แต่ในทางตรงกันข้าม กึมจันดี กลับรู้สึกว่า สิ่งที่ กูจุนพโย แสดงออกมาเหมือนจะพยายามหลอจีกตนให้ตกหลุมพรางบางอย่าง และที่สำคัญไปกว่านั้น เธอเริ่มมีใจให้กับ ยุนโฮ เข้าเสียแล้ว




วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เพลงพระจันทร์ยิ้ม


ได้ฟังเรื่องราวของเธอ
เรื่องเดิมๆ ที่เธอชื่นชอบใคร เธอแอบรักใคร
มันช่างทรมานเหลือเกิน
ที่ต้องฟังและทำตรงข้ามใจ
อยู่อย่างนี้ต้องฝืน

ต้องยิ้มเหมือนพระจันทร์คืนนั้น
ที่ยิ้มและดูสดใสไปกับเธอ
โดยที่เธอไม่เคยสังเกต
ว่าส่วนใหญ่จริงๆ ของจันทร์
มันช่างแสนจะดูมืดมน

เมื่อไหร่จะมองตรงนี้ คนที่อยู่ข้างเธอ
เขาก็แค่เพิ่งเจอ รักฉันนะเธอได้ไหม
แต่ก็รู้ว่าฉัน คงถามได้แค่ในใจ
เพราะไม่กล้าเสี่ยง และไม่พร้อมที่จะเสี่ยง
กลัวเธอจะเปลี่ยนไป

ยังต้องเป็นผู้ฟังที่ดี เมื่อเวลาที่เธอพบรักใคร
ได้แต่รับฟังไว้

และยิ้มเหมือนพระจันทร์คืนนั้น
ที่ยิ้มและดูสดใสไปกับเธอ
โดยที่เธอไม่เคยสังเกต
ว่าส่วนใหญ่จริงๆ ของจันทร์
มันช่างแสนจะดูมืดมน

เมื่อไหร่จะมองตรงนี้ คนที่อยู่ข้างเธอ
เขาก็แค่เพิ่งเจอ รักฉันนะเธอได้ไหม
แต่ก็รู้ว่าฉัน คงถามได้แค่ในใจ
เพราะไม่กล้าเสี่ยง และไม่พร้อมที่จะเสี่ยง
กลัวเธอจะเปลี่ยนไป

เมื่อไหร่จะมองตรงนี้ คนที่อยู่ข้างเธอ
รักเธอมาเสมอ หันมองกันบ้างได้ไหม
แต่ก็รู้ว่าฉัน คงถามได้แค่ในใจ
เพราะไม่กล้าเสี่ยง คงไม่คุ้มที่จะเสี่ยง
กลัวเธอจะจากไป